วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การพัฒนาตัวเองใน 1 เดือน



คุณเคยคิดอยากเปลี่ยนตัวเองบ้างไหม หรือมีอะไรที่อยากทำมานานแต่ไม่ได้ลงมือทำเสียทีบ้างหรือเปล่า บางครั้งก็อยากเลิกสักทีกับนิสัยแย่ ๆ ของตัวเอง ถ้าใครเป็นอย่างที่ว่ามานี้ล่ะก็ วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอแนวทางดี ๆ จาก highexistence.com ซึ่งเป็นข้อคิดที่ได้จาก Matt Cutts ที่พูดในงาน TED 2011 มาฝากกัน วิธีนี้เป็นวิธีที่ต้องทำให้ครบ 30 ข้อ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองใน 30 วัน ถ้าใครพร้อมจะลองแล้วก็มาดูกันเลยจ้า
 1. เขียนชื่นชมคนอื่นแล้วบอกให้เขารู้
          จะส่งเป็นอีเมล ข้อความ หรือจดหมายก็ได้ทั้งนั้น คนเรามักจะคิดถึงข้อเสียและเรื่องแย่ ๆ ของคนอื่นก่อนเสมอ การทำแบบนี้เป็นโอกาสดีที่จะทำให้คุณได้เปลี่ยนมานึกถึงข้อดีของผู้อื่นบ้าง และยังเป็นการแสดงความใส่ใจอีกด้วย ทำแบบนี้ตลอด 30 วัน คุณอาจทำให้ใครหลาย ๆ คนมีความสุขไปทั้งวันก็ได้






 2. คุยกับคนแปลกหน้าวันละหนึ่งคน
          ถ้าคุณเป็นคนไม่ค่อยเข้าสังคม เพราะไม่กล้าเปิดปากพูดกับใครก่อนล่ะก็ การพูดคุยกับคนแปลกหน้าทุกวันตลอดเดือนต้องเปลี่ยนคุณให้เป็นคนใหม่ได้แน่ ๆ คุณจะได้รู้เลยว่าการพูดคุยกับคนที่เพิ่งรู้จัก มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย







 3. ถ่ายรูปทุกวัน
          จะถ่ายแล้วเอาไปติดบนไดอารี่ก็ได้ จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองในแต่ละวัน แถมรูปพวกนี้ยังช่วยให้คุณนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ ได้ดีไม่แพ้คำบอกเล่าเสียด้วย







 4. ทบทวนความเชื่อของตัวเอง
          การถามตัวเองว่าทำไมเราถึงเชื่อแบบนั้น ทำแบบนี้ ทำให้เรารู้ว่าเรื่องไหนเป็นแค่อคติของตัวเองมากกว่าเป็นความเชื่อที่มีเหตุผล จะได้ลดความเชื่อเดิม ๆ เพื่อเปิดใจเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น

















 5. เดินวันละครึ่งชั่วโมง
          นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้ว การใช้เวลาเดินก็ช่วยให้ผ่อนคลาย และได้พบปะผู้คนใหม่ ๆ อีกด้วย







 6. อย่าลืมรักตัวเองทุกวัน
          คุณพูดได้เต็มปากว่ารักตัวเองหรือเปล่า สังคมที่กดดันทุกวันนี้อาจจะทำให้คุณรู้สึกล้มเหลว โทษตัวเอง สุดท้ายก็พาลไม่พอใจในตัวเอง แต่จริง ๆ แล้วทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับวิธีคิดของคุณ เริ่มจากยอมรับข้อดีข้อเสียของตัวเอง และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ...จำไว้ ไม่มีใครในโลกนี้เพอร์เฟคท์ทั้งนั้นแหละ
 7. ลองเมนูใหม่ ๆ ทุกวัน
          นอกจากจะได้เปลี่ยนรสชาติแล้ว การทำแบบนี้ยังอาจช่วยให้คุณได้อาหารจานโปรดเพิ่มอีกด้วย คุณอาจจะถูกใจอาหารสุขภาพซักจาน จนเบื่ออาหารขยะเดิม ๆ ไปเลยก็ได้
 8. งดเหล้าและยาตลอดเดือน
          เรียนรู้ที่จะสนุกโดยไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอล์ อย่าคิดว่าจะอยู่โดยไม่มีมันไม่ได้ หรือหากคุณลองไม่แตะยาที่กินเป็นประจำอย่างยานอนหลับซักหนึ่งเดือน ไม่แน่ว่า คุณอาจไม่ต้องพึ่งมันไปอีกตลอดชีวิตเลยก็ได้
 9. เขียนนิยายยาว 50,000 คำ
          เคยอยากมีนิยายเป็นของตัวเองบ้างไหม ถ้าไม่เริ่มต้น ก็ไม่มีทางได้ทำจริง ๆ สักที ลองเขียนในหนึ่งเดือนนี่แหละ ใครจะรู้ นิยายเล่มแรกของคุณอาจจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าก็ได้
 10. หัดวาดรูปคน
          เป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณรู้จักสังเกตมากขึ้น หัดไปตลอดหนึ่งเดือนนั่นแหละ ฝีมือต้องพัฒนาขึ้นแน่นอน
 11. ดูสารคดีทุกวัน
          นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่คุณไม่อาจพบหาได้เองในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่สะดวกจะรอดูตามเวลาที่ฉายทางโทรทัศน์ ก็สามารถหาดูตามเว็บไซต์ออนไลน์ได้เช่นกัน
 12. อ่านหนังสือวันละบท
          แทบทุกคนรู้ว่าการอ่านเป็นสิ่งที่ดี ทั้งช่วยฝึกสมาธิและทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ด้วย แต่เดี๋ยวนี้เราแทบไม่ได้ห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เลย ทำให้ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ควรหาเวลาออกไปอ่านหนังสือข้างนอกบ้าง อย่างร้านกาแฟบรรยากาศสบาย ๆ ก็ไม่เลว
 13. ศึกษาเรื่องที่อยากเรียนทุกวัน 
          ถ้าอยากเรียนอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็น เรียนภาษา ทำขนม เขียนโปรแกรม คุณควรจะฝึกทุกวัน จะได้พัฒนาความสามารถของตัวเองและทำสิ่งที่ชอบไปพร้อม ๆ กัน
 14. ลองเปลี่ยนเส้นทางบ้าง
          ไม่ว่าจะไปโรงเรียน ที่ทำงาน หรือที่ไหน ๆ ลองเปลี่ยนเส้นทางเดินทางดูบ้าง จะได้รู้จักเส้นทางมากขึ้น และได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วย
 15. อ่านบทความเกี่ยวกับคนที่ประสบความสำเร็จ
          คุณเลือกอ่านได้หลายแนว ทั้งคนบันเทิง นักธุรกิจ นักการเมือง หรืออื่น ๆ คนเหล่านี้อาจเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นกำลังใจให้คุณได้รู้ว่า ไม่ว่าใครย่อมต้องผ่านอุปสรรค ก่อนจะประสบความสำเร็จ
 16. จำกัดการรับข่าวสารของตัวเอง
          อย่าตามข่าวหรือดูทีวีมากเกินไป เลิกเล่นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์สักเดือน แล้วคุณจะตกใจเมื่อรู้ว่า ที่จริงแล้ว คุณมีเวลางว่างเยอะแค่ไหน
 17. เลิกทำนิสัยแย่ ๆ ของตัวเองสักข้อตลอดหนึ่งเดือน
          จะเป็นนิสัยเสียข้อไหนก็ได้ จะขี้เกียจ ติดบุหรี่ หรืออะไรก็แล้วแต่ พยายามงด ๆ มันตลอดหนึ่งเดือน ไม่แน่ว่ามันอาจทำให้คุณเลิกนิสัยนี้ได้ถาวรเลยก็ได้
 18. สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองทุกวัน
          การทำแบบนี้จะช่วยให้เรามีความมุ่งมั่นและเป้าหมายในชีวิต สามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการปริ้นท์พวกคำคม หรือประโยคเด็ด ๆ ที่คนเคยพูดเอาไว้มาติดบนบอร์ดให้เราได้เห็นทุกวัน
 19. อาบน้ำเย็น
          การอาบน้ำเย็นจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากผ่านเรื่องหนัก ๆ มาทั้งวัน นอกจากนี้การอาบน้ำเย็นก็ยังช่วยให้สุขภาพดีอีกด้วย
 20. วางแผนชีวิตในอีก 30 ปีข้างหน้า
          การวางแผนชีวิตไว้ก่อนจะทำให้เรามั่นใจในอนาคตของตัวเองมากขึ้น และทำให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย
 21. เรียนสิ่งใหม่ ๆ ทุกวัน
          ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่อยู่ในความสนใจของคุณ ลองสุ่มดูเล่น ๆ ก็ได้ว่าวันนี้อยากจะลองอะไร คุณอาจจะได้พบสิ่งที่ตัวเองชอบเพิ่มขึ้น และได้พบความถนัดในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยคาดคิดมาก่อน
 22. เปลี่ยนมาใช้บันได
          เทคโนโลยีทุกวันนี้ทำให้คนเราขี้เกียจขึ้นทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ได้รีบมาก ก็ลองเปลี่ยนมาใช้บันไดดูบ้าง จะได้ออกกำลังกายวันละนิด
 23. ตื่นแต่เช้า
          อย่านอนกินบ้านกินเมือง ตื่นมาสูดอากาศบริสุทธฺ์ตอนเช้าเสียบ้าง แล้วจะรู้ว่ามันทำให้คุณรู้สึกดีกว่าที่คิด
 24. เขียนบันทึก
          เอาไว้ระบายความในใจ และเขียนเรื่องดี ๆ ให้เราได้อมยิ้มทุกครั้งที่อ่านเจอความทรงจำเก่า ๆ ที่ประทับใจ
 25. ห้ามโกหก
          หยุดโกหกหนึ่งเดือน เลิกเกรงใจคนอื่น และพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดบ้าง ถ้าคุณทำได้ คุณอาจไม่จำเป็นต้องโกหกอีกเลยตลอดชีวิต
 26. ลองเอาหลาย ๆ ข้อมาทำพร้อม ๆ กัน
          ยกตัวอย่างเช่น ตื่นแต่เช้าถ่ายรูปตัวเองอ่านหนังสือในที่ต่าง ๆ แล้วเปลี่ยนเส้นทางเดินเพื่อจะได้เจอคนแปลกหน้า สั่งอาหารเมนูใหม่ จากนั้นก็แวะเรียนโยคะ แล้วค่อยกลับบ้านมาอาบน้ำเย็น การลองสิ่งใหม่ ๆ พร้อม ๆ กันอาจทำให้วันนั้นกลายเป็นวันดี ๆ อีกวันของคุณก็ได้
 27. ทำสิ่งที่ไม่กล้าทำ
          ความกลัวนี่แหละที่เป็นตัวขัดขวางไม่ให้เราทำสิ่งที่อยากทำซะที ลองเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัววันละนิด อาจทำให้คุณเอาชนะความกลัวได้ซักวัน
 28. อย่าเอาแต่บ่นทั้งวัน
          เข้าใจดีว่าต่อให้คนมองโลกในแง่ดีแค่ไหนก็เลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าใครก็มีเรื่องแย่ ๆ ให้บ่นกันทุกวันนั่นแหละ แต่การบ่นไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น การพยายามต่อโดยไม่ท้อถอยต่างหากที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ
 29. นั่งสมาธิ
          การนั่งสมาธิช่วยให้คุณได้ผ่อนคลาย ลืมเรื่องเครียด ๆ ที่คุณหมกมุ่นทิ้งไปซะ เป็นการปล่อยวางให้จิตใจสงบสุข
 30. ทำดีวันละนิด
          ลองให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนดูบ้าง เช่น ลองให้เงินขอทานสักคน โดยไม่ต้องสนใจว่าเขาจะแกล้งทำเป็นคนพิการหรือไม่ เขาจนจริงหรือเปล่า ให้แล้วเราจะได้อะไร ให้แค่เพราะสุขใจที่ได้ให้ก็พอแล้ว
          ลองทำให้ครบทุกข้อ ไม่แน่ว่า ภายใน 1 เดือนนี้ คุณอาจกลายเป็นคนใหม่โดยไม่ทันรู้ตัวเลยก็ได้





ที่มา : kapook.com

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กำเนิด 7-11 (ประวัติ) โดยย่อ

กำเนิด 7-11 (ประวัติ) โดยย่อ 

เซเว่น อีเลฟเว่น สาขาแรก ถือกำเนิดขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2470โดย บริษัท เซาท์แลนด์ ไอซ์ จำกัด (เซาท์แลนด์ คอร์ปอเรชั่น) เริ่มต้นกิจการผลิต และจัดจำหน่ายน้ำแข็ง ที่เมืองดัลลัส รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ใน ปีเดียวกัน ทางบริษัทฯ ได้นำสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ มาจำหน่าย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Tote'm Store ต่อมาในปี พ.ศ. 2489 ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เป็น เซเว่น-อีเลฟเว่น (7-Eleven) เพื่อรองรับการขยายกิจการนี้ ซึ่งในระยะแรก เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 07.00-23.00 น. ของทุกวัน อันเป็นที่มาของชื่อ เซเว่น อีเลฟเว่น นั่นเอง

ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1980 บริษัท เริ่มประสบปัญหาทางการเงิน และได้รับความช่วยเหลือจากอิโต-โยคะโดซึ่งเป็นผู้ซื้อแฟรนไชส์รายใหญ่ที่สุด บริษัทญี่ปุ่นมีอำนาจควบคุมบริษัทในปี พ.ศ. 2534 ในปี พ.ศ. 2548 อิโต-โยคะโดก่อตั้งบริษัทเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์และเซเว่น อีเลฟเว่นก็กลายเป็นบริษัทลูกของเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ตั้งแต่นั้นมา
เซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย



สำหรับในประเทศไทย แฟรน ไชส์ เซเว่น อีเลฟเว่น บริหารโดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ บมจ.ซีพี ออลล์ (เดิมคือ บมจ. ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น) บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยได้ลงนามในสัญญา ซื้อสิทธิการประกอบกิจการ จากเจ้าของสิทธิ์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ อาคารธารา สาทรทาวเวอร์ ชั้น 12 ซอยสาทร 5 ถนนสาทรใต้ กรุงเทพมหานคร

เซเว่น อีเลฟเว่น สาขาแรกในประเทศไทย คือ สาขาถนนพัฒน์พงศ์ ตั้ง อยู่บริเวณหัวมุมถนนพัฒน์พงษ์ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2532 ปัจจุบันมีจำนวนสาขาประมาณ 6,300 สาขา (ข้อมูล ณ มกราคม พ.ศ. 2555) เฉพาะในกรุงเทพมหานคร มีมากกว่า 300 สาขา รองลงมาคือ เชียงใหม่ มีมากกว่า 78 สาขา ซึ่งไทยมีสาขามากเป็นอันดับ 3 รองจากญี่ปุ่น และ ไต้หวัน ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังถือเป็นร้านค้าปลีกที่มีเครือข่ายมากที่สุด โดยมียอดขายเฉลี่ย 65,019 บาท ต่อวันต่อสาขา

ใน ปี พ.ศ. 2545 ทางซีพี ออลล์ได้มีการขยายสาขาไปสู่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. เพื่อให้สาขาครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยทำให้มีผู้ใช้บริการมากกว่า 4 ล้านคนต่อวัน โดยปัจจุบันนี้สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทั่วประเทศเกือบทุกแห่งมีร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในสาขา ทั้งรูปแบบ Standard Platinum และ PTT Park

ชื่อของซีพี ออลล์ ในอดีตมีชื่อว่าบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด(มหาชน)โดยก่อนปี 2550 ได้ใช้ชื่อนี้มาตั้งแต่ปี 2531

ขอบคุณ wikipedia.com

"แอบเจ็บ" เพลงเศร้าปนเจ็บ ที่เจ็บทนเก็บความรู้สึก (ฟังเพลง)

เพลง แอบเจ็บ เวอร์ชั่นทั้งเก่าและใหม่



เวอร์ชั่นเก่าในแบบ XYZ วงดนตรีในตำนานของวงการเพลงไทยโดยมี คุณสุรีย์ภรณ์ ปุญญมาโนชญ์ (โบว์) เป็นคนถ่ายทอดบทเพลงในยุค 80's ที่ฟังดูคลาสิค ในแบบต้นฉบับ 


เวอร์ชั่นใหม่ นำมาเรียบเรียงและทำนองระหว่างดนตรียุค 80's รวมกับดนตรีสมัยใหม่ โดยมีคุณ พิจิกา จิตตะปุตตะ (พี่ ลูกหว้า) นำมา cover ใหม่ โดยเห็นได้ชัดทั้งทำนองและการร้องในแบบสมัยใหม่ 

เนื้อเพลง "แอบเจ็บ"
-----------------------
คำร้อง : ประชา พงศ์สุพัฒน์, นายตี่
ทำนอง : นายตี่
เรียบเรียง : จักรธร ขจรไชยกูล

เพื่อนเขามางานเลี้ยงสนุกกัน แต่ฉันแอบอยู่เพียงผู้เดียว กับน้ำตาที่หมดแรงยึดเหนี่ยว อีกเดี๋ยวคงหลั่งริน เห็นเธอเข้ามาสองคน สองคนแอบเชยชิดกัน สองคนสบตาซึ้งใจกัน

* แอบเจ็บเพราะเธอที่ใจร้าย อีกหยดน้ำตาก็รินไหล แอบเจ็บคนเดียว แอบโกรธคนเดียวทนข่มใจ แอบเจ็บเพราะเธอที่ใจร้าย อีกหยดน้ำตาก็รินไหล เจ็บปวดเพียงใด ปลอบใจตัวเองด้วยน้ำตา

แว่วเสียงเพลงงานเลี้ยงดังออกไป ก้องอยู่ในใจทั้งคืน แทรกเสียงเพลงคือเสียงสะอื้น ต้องฝืนทนหลับตา
เห็นเธอเข้ามาสองคน สองคนแอบเชยชิดกัน สองคนสบตาซึ้งใจกัน



ขอบคุณเว็บ Youtube.com wikipedia.com